[SNSD] MY PRINCESS (TaengSic) - [SNSD] MY PRINCESS (TaengSic) นิยาย [SNSD] MY PRINCESS (TaengSic) : Dek-D.com - Writer

    [SNSD] MY PRINCESS (TaengSic)

    เจ้าหญิงก็คือเจ้าหญิง คนอย่างฉันไม่ต้องเป็นถึงเจ้าชายหรอก แค่เจ้าหญิงรับรู้ว่าฉันมีตัวตนบนโลกใบนี้ ก็พอ....

    ผู้เข้าชมรวม

    1,741

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    1.74K

    ความคิดเห็น


    12

    คนติดตาม


    29
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ม.ค. 57 / 23:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เสียงดนตรีคลาสสิคคลอตามทางเดินบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสถานที่นี้คืออะไร นักศึกษาหญิงชายนั่งประปรายตามทางเดิน บ้างคุยกัน บ้างนั่งอ่านหนังสือ แต่ไม่มีใครเลยที่จะนึกรำคานเสียงดนตรี เพราะที่นี่เสียงดนตรีเป็นสิ่งที่สวยงามที่สามารถชุบหัวใจที่เหี่ยวเฉาให้กลับมามีชีวิตชีวาได้ ฉันก็เชื่ออย่างนั้น เพราะฉะนั้นฉันจึงเลือกเรียนที่นี่ ที่ที่เสียงดนตรีจะเป็นจุดเริ่มต้นทุกๆอย่าง

      “เฮ้ยพวกเรา นั่นคุณเจสสิก้ามาแล้ว” ฉันหันตามเสียงพูดทันทีถึงอยากจะมองแค่ไหน แต่ก็ทำได้แค่ยืนอยู่ตรงมุมเสาที่ตัวเองเพิ่งจะเดินผ่านมา ใช่แล้ว นั่นเจสสิก้าจริงๆด้วย เจ้าหญิงของคณะศิลปกรรมศาสตร์ เจ้าหญิงของภาควิชาดนตรีสากลประยุกต์ เจ้าหญิงที่ฉันไม่มีวันเอื้อมถึง เธอเดินพูดคุยกับเพื่อนๆไปตามทางเดิน ฉันอยากจะรู้ว่าเธอจะเคยรู้สึกสักนิดไหม ว่ามีคนๆนึงที่แอบมองเธอทุกวัน คนๆนั้น คนแบบฉัน

      “แทยอน แกมายืนอะไรตรงนี้ว่ะ ไมไม่ไปนั่งโต๊ะ” ยูริเพื่อนของฉันทักขึ้น คงจะเห็นฉันมายืนแอบตรงนี้ถึงได้ถามออกมา ฉันอมยิ้ม จะให้บอกหรือไงว่ามายืนแอบมองคนอื่น มีหวังคนอย่างยูริได้ล้อฉันแน่ๆ

      “กำลังจะไปนี่ไง” แล้วก็เดินอมยิ้มมาที่โต๊ะกลุ่มของพวกเรา ซึ่งมักจะนั่งรวมตัวกันเป็นประจำ ฉันวางกระเป๋ากีต้าร์คลาสสิคอย่างเบามือก่อนจะนั่งลง สายตาก็ยังมองไปยังกลุ่มของเธอที่นั่งถัดออกไปไม่ไกลมากนัก เจสสิก้าและเพื่อนๆของเธอมักจะนั่งตรงนั้นเสมอ เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ทุกๆอย่างที่รวมเป็นเธอทำให้ฉันไม่นึกอยากมองอย่างอื่นให้เสียเวลาเลย

      “นี่พี่แทยอน ถ้าจะมองคุณเจสสิก้าเขาขนาดนั้น ยุนว่าพี่ไปขอเขาแต่งงานเถอะ” แล้วก็เป็นยุนอา รุ่นน้องคนเดียวที่อยู่ในกลุ่มของฉันพูดขึ้น ฉันหันไปมองรุ่นน้องก่อนจะยิ้ม ขอแต่งงาน ไร้สาระจริงๆ อย่างดีแค่ให้เธอรู้ว่าบนโลกใบนี้มีคนชื่อคิมแทยอน ก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน

      “เป็นเอามากนะแก” ซันนี่หนึ่งในเพื่อนสนิทของฉันอีกคนพูดขึ้น ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันคงจะโดนรุมซะแล้ว เพราะตอนนี้ยูริที่เดินไปซื้อขนมตอนนี้เดินกลับมาสมทบในกลุ่มแล้ว

      “ฉันปกติดีนะทุกคน เลิกล้อได้แล้วน่า” แล้วฉันก็เดินสะพายกระเป๋ากีต้าร์คลาสสิคตัวโปรดเดินออกมา มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ในเมื่อห้องเรียนที่ฉันต้องเข้า ทางผ่านของมันดันอยู่ใกล้ๆกับกลุ่มของเธอ ฉันกำลังจะเดินผ่านเธอ ทั้งๆที่ในใจอยากจะยิ้มให้ แต่เธอคงจะจำฉันไม่ได้ มีคนเข้ามามากมายในชีวิตของเธอที่เธอเลือกจะจำ แต่คงไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่คิมแทยอน

      .

      .

      .

      .

      “นี่พวกเรานั่นใครเหรอที่เดินสะพายกระเป๋ากีต้าร์ผ่านกลุ่มเราไป?”

      “ฉันจะไปรู้ได้ไงเล่า เธอนี่ก็ถามแปลกๆ ฮ่าๆๆ” แล้วเจสสิก้าก็พูดคุยกับเพื่อนในหัวข้ออื่นต่อไป จะมีไหม? อะไรก็ได้สักอย่างที่สามารถทำให้เจสสิก้ารับรู้ว่า คิมแทยอน มีสายตาไว้เพื่อมองแต่เธอคนเดียว

                      เวลาเดินไวเกินไปหรือเปล่านะ รู้ตัวอีกที คลาสเรียนวิชาเฉพาะก็จบลง ต่อไปคือวิชาดนตรีประยุกต์ นึกแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ เพราะวิชานี้เป็นวิชาที่เรียนรวมทั้งคณะ และแน่นอนเธอคนนั้นก็จะมาเข้าเรียนด้วย เจสสิก้าเป็นดาวเด่นในภาควิชา เพราะความสามารถในการเล่นเปียโนของเธอ และความที่เธอเป็นถึงทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลจอง ตระกูลเก่าแก่ที่เป็นตัวแทนนำเข้าเครื่องดนตรีคลาสสิคยี่ห้อดัง และเจ้ากีต้าร์คลาสสิคตัวโปรดของฉันก็เป็นยี่ห้อนั้นด้วย

      “แทยอน ทางนี้ๆ” ยูริกับซันนี่เรียกให้ฉันเดินไปหา เพราะยูริกับซันนี่เรียนเครื่องดนตรีเฉพาะคือ ไวโอลิน ทำให้ฉันที่เรียนกีต้าร์คนเดียวต้องแยกไปเรียนเองบ้างถ้าต้องเรียนวิชาเฉพาะ

      “วันนี้ทำไมคลาสถึงได้ดูคึกคักจังนะ?” ฉันถามเพราะสงสัยจริงๆ เพราะดูเหมือนว่านอกจากนักเรียนชั้นปีของฉันที่ต้องเข้าเรียนปกติ ก็มีเหล่ารุ่นพี่รุ่นน้องที่เข้ามาโดยไม่ทราบสาเหตุ    

      “เห็นเขาพูดๆกันว่าวันนี้คุณเจสสิก้า จะเดี่ยวเปียโนในคลาส สงสัยอาจารย์ชิมอยากจะอวดเพลงใหม่ที่ตัวเองแต่งแน่ๆเลยหว่านล้อมคุณเจสสิก้าให้เล่นเนี่ย” ซันนี่พูดไปก็มองไปทางอาจารย์หนุ่มที่กำลังชี้แจงเรื่องเพลงให้เจสสิก้าที่ยืนอยู่บนเวทีฟัง สงสัยวันนี้จะเป็นวันโชคดีอีกวันของฉันแน่ๆ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะได้เห็นเธอเล่นเปียโนแบบนี้

      “คุณเจสสิก้านี่น้า สวยก็สวย รวย เก่ง ฉันล่ะอยากจะเห็นแฟนเขาจริงๆว่าจะเป็นยังไง” ยูริพูดขึ้นทำเอาฉันแทบสะอึก ไม่ใช่ว่าไม่พอใจหรอกนะ แต่มาคิดๆดูอีกที คนที่ได้เป็นแฟนเธอคงจะโชคดีเป็นบ้า

      “เอาล่ะนักศึกษาทุกท่านเงียบๆและฟังกันหน่อย ใครที่เรียนกีต้าร์คลาสสิคเป็นเครื่องดนตรีเฉพาะบ้าง?” ฉันได้ยินดังนั้นก็ยกมือขึ้นรวมทั้งเพื่อนๆในคลาสกีต้าร์คลาสสิค แต่ก็ยังสงสัยไม่น้อยที่อยู่ๆอาจารย์ชิมก็ถาม

      “เอาล่ะเอามือลงได้ ใครที่เล่นได้ดีที่สุดในคลาส?”

      “จอง ยงฮวาค่ะ แต่นายนั่นโดดเรียนค่ะอาจารย์” เหล่านักเรียนกีต้าร์คลาสสิคที่เหลือรวมทั้งฉันต่างพากันโห่และหัวเราะ เพราะยงฮวาอย่างที่รู้ๆ ไม่มีสอบ ไม่เข้าเรียนคลาสอาจารย์ชิมแน่นอน

      “กล้าดียังไงนะ!! แต่ไม่เป็นไร รองลงมาล่ะ ใคร?”

      “คิมแทยอนครับอาจารย์”

      “อ้าว อยู่ไหนคุณคิมแทยอน อย่าบอกนะว่าไม่เข้าคลาสผมอีกคน” ฉันรีบยืนขึ้นทันที ขืนมัวโอ้เอ้เดี๋ยวอาจารย์ชิมจะต้องหาเรื่องหักคะแนนฉันแน่ หลังจากยืนขึ้นอาจารย์ชิมกวักมือเรียกให้ฉันไปหา ฉันเดินสะพายกระเป๋ากีต้าร์คู่ใจ ออกไปหน้าคลาส ใจก็สั่นแปลกๆ เพราะด้านหน้านอกจากอาจารย์ชิมก็มีเธอที่ยืนอยู่ ฉันเงยหน้าสบตาเธอ นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ฉันกล้าสบตาเธอตรงๆแบบนี้

      “นี่คุณคิม ช่วยเล่นเพลงของผมคู่กับคุณจองหน่อยสิ ผมอยากให้มันออกมาเพอเฟคที่สุด” อาจารย์ชิมพูดขอร้องไปเรื่อย แต่ตอนนี้ฉันอึ้งไปแล้วล่ะ ฉันจะได้เล่นดนตรีกับเธอ เล่นเพลงเดียวกับเธอ นั่งอยู่ข้างๆเธอ แค่นี้ฉันก็ไม่รู้จะสุขยังไงแล้ว

      “ได้ค่ะอาจารย์” ตอบออกไปแบบนั้นก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบเอากีต้าร์ตัวโปรดออกมา หันไปมองในคลาสก็เห็นยูริและ   ซันนี่ทำมือเป็นรูปหัวใจส่งมาทางฉัน ฉันทำได้แค่ยิ้มเท่านั้น

      “นี่เธอ ตรงท่อนที่สาม เธอโซโล่ละกันนะ เพราะดูจากโน้ตแล้วฉันว่าเสียงกีต้าร์น่าจะเพราะกว่า” และความรู้สึกชาแวบก็เข้ามาเกาะตามมือและเท้า เจสสิก้าพูดกับฉัน ฉันตื่นเต้นจนไม่กล้ามองหน้าเธอทำได้แค่พยักหน้าเท่านั้น

      “ฉัน เจสสิก้านะ เธอชื่ออะไรเหรอ?”

      “แทยอน คิมแทยอน”

      “ยินดีที่ได้รู้จักนะแทยอน” ฉันเงยหน้าขึ้นมอง เธอมองมาที่ฉัน รอยยิ้มอ่อนๆที่เธอมอบให้ฉันนั้น ฉันสัญญาว่าจะเก็บไว้ในความทรงจำนานๆเลยล่ะ

      “อื้ม” หลังจากตกลงแบ่งท่อนกันแล้ว เราทั้งสองคนก็เริ่มบรรเลงเพลงที่อาจารย์ชิมเป็นคนแต่ง ฉันที่เกากีต้าร์ตัวโปรดก็ลอบมองด้านหลังของเธอเป็นระยะๆ กิริยางดงามดังเจ้าหญิง ท่าทางการเล่นที่สง่างาม ทำให้ฉันคิดได้ว่าคนอย่างฉัน เหมาะที่จะได้มองแต่ด้านหลังของเธอเท่านั้น

                      ในไม่ช้า เราทั้งสองก็บรรเลงเพลงจนจบ ทั้งคลาสปรบมือเสียงดัง มีทั้งเสียงกรี๊ดดังมากมายกับการแสดงของเรา ฉันและเธอเดินมาด้านหน้าพร้อมกันก่อนจะโค้งให้กับเพื่อนๆที่ชื่นชอบการบรรเลงเพลงของพวกเรา

      “ทำได้ดีมากคุณคิม คุณจอง ผมไม่ผิดหวังในตัวพวกคุณจริงๆ” อาจารย์ชิมพูดก่อนจะเดินไปเตรียมเอกสารการสอนด้านหน้าต่อ ฉันหันมามองที่เธอ ซึ่งเธอก็มองมาที่ฉันเช่นกัน เรายิ้มให้กันก่อนที่ฉันจะเดินไปหยิบกระเป๋ากีต้าร์และเดินออกมาเพื่อจะกลับไปนั่งที่

      “นี่แทยอนกีต้าร์เธอรุ่นอะไรเหรอ?” แล้วอยู่ดีๆเธอก็ถามขึ้น ฉันชะงักในทันที วันนี้คงจะเป็นวันดีจริงๆนั่นแหล่ะ นอกจากจะได้เล่นดนตรีคู่กับเธอ เธอยังชวนฉันคุยอีก

      “เป็นกีต้าร์ของพ่อน่ะ ฉันก็ไม่ได้สนใจเท่าไรหรอกว่ารุ่นอะไร”

      “เหรอ ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ฉันอยากให้เธอสอนฉันเล่นบ้างน่ะ คือฉันอยากเล่นเป็นมานานแล้ว แต่ไม่มีใครสอนสักที”

      “อย่าเลย ฉันว่าเธอเหมาะกับเปียโนอยู่แล้ว และอีกอย่างเล่นกีต้าร์นิ้วจะไม่สวยนะ” ฉันพูดยิ้มๆให้เธอ เจสสิก้าเองก็ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ เธอยิ้มอ่อนๆมาให้ฉัน

      “งั้นไม่เล่นก็ได้ ฉันไปนะ” เธอยิ้มให้ก่อนจะเดินกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆของเธอ ฉันเองก็เดินกลับไปหาซันนี่และยูริที่นั่งทำหน้าอมยิ้มแปลกๆมาทางฉัน

      “จะยิ้มอะไรกันนักนะ”

      “แหม นานๆทีคนนิ่งๆอย่างเธอจะเขินนะ” ซันนี่ว่าก่อนจะหันไปตีมือกับยูริ

      “ฉันไม่ได้เขินซะหน่อย เลิกมองกันได้แล้ว เรียนดีกว่า” พวกเราจบประโยคสนทนากันแค่นั้น ระหว่างเรียนฉันก็ลอบมองเจสสิก้าเป็นระยะๆ และมันก็กลับมาเหมือนเดิม แอบมองเหมือนเดิม ถ้านี่คือฝัน คงจะเป็นฝันที่ดี่ที่สุดจริงๆ

                      หลังจากเลิกเรียน ฉันแยกกับยูริและซันนี่ทันที เพราะว่าบ้านของฉันอยู่คนละทางกับสองคนนั้น ระหว่างทางเดินกลับ ฉันก็เจอกับเธออีกแล้ว เธอกำลังยืนคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง เขาดูดีทีเดียว ฉันไม่คิดจะไปขวางเธอ จึงทำได้แต่เดินผ่านไปเงียบๆ

      “แทยอน แทยอนใช่ไหม?” ฉันหันกลับไปมองตามเสียงเรียก เจสสิก้ายิ้มให้ฉัน เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางฉัน ท่าทางดูเหมือนเด็กเล็กๆไม่มีผิด

      “นี่ คืนนี้เธอว่างไหม? คือถ้าไม่รังเกียจ ไปร่วมงานวันเกิดฉันได้ไหม?”

      “หื้ม? วันเกิด” ฉันมองหน้าเธอ ตอนนี้หน้าของเธอดูเต็มไปด้วยความหวัง ฉันได้แต่แอบดีใจที่เธอจำฉันได้และตอนนี้เธอกำลังชวนฉันไปงานวันเกิด

      “ว่าไงแทยอน เธอจะไปไหม?”

      “ก็ได้ ฉันไปได้”

      “ดีจัง ไปให้ได้นะ” แล้วเธอก็เดินจากไปขึ้นรถกับชายหนุ่มที่เธอคุยด้วยเมื่อครู่ นั่นคงจะเป็นแฟนเธอสินะ ฉันได้เป็นเพื่อนของเธอแค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนี่ คนอย่างฉันได้เป็นเพื่อนกับเจ้าหญิง เพียงเจ้าหญิงได้รู้ว่าบนโลกนี้ยังมีคนชื่อคิมแทยอน แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ

                      ตอนนี้ฉันมาหยุดอยู่หน้าร้านของขวัญ อย่างน้อยฉันก็น่าจะมีของขวัญวันเกิดติดไม้ติดมือไปบ้าง ถึงมันจะไม่แพงมาก แต่ก็หวังลึกๆว่าเธอคงจะพอรับมันไปได้

      “สวัสดีค่ะ เชิญเลือกได้ตามสบายเลยนะคะ หรือสามารถสอบถามได้ค่ะ” พนักงานของร้านหันมาบอกฉันก่อนที่เธอจะเดินกลับไปจัดของต่อ ฉันเดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยๆ สายตาก็ไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง มันคือกล่องดนตรีเล็กๆ บนฐานประดับด้วยรูปปั้นเจ้าหญิงที่กำลังนั่งบรรเลงเปียโน แต่ขณะเดียวกัน ที่นั่งด้านข้างๆก็มีเจ้าชายที่นั่งเล่นกีต้าร์อยู่บนเก้าอี้ตัวเดียวกัน

      “ฉันขอชิ้นนี้ค่ะ ช่วยห่อให้ด้วยนะคะ” พนักงานรับกล่องดนตรีจากมือฉันก่อนจะนำมันไปห่อให้ ฉันรอเพียงไม่นานก็ได้ของขวัญที่ต้องการ ฉันจ่ายเงินก่อนจะเดินออกมาจากร้าน สถานที่ต่อไปคือบ้านของเจสสิก้า

                      ภายในงานประดับด้วยโคมไฟหลากสี แขกที่มาหลายๆคนฉันจำได้ว่าเห็นในทีวีบ่อยๆ บ้างเป็นดารา นักร้อง และเหล่าคนดังในมหาวิทยาลัย ฉันหันกลับมามองตัวเอง ดูไม่เหมาะเท่าไรเลยนะที่ฉันมางานนี้ คิดได้ดังนั้นก็พยายามมองหาเจ้าของงานที่คงอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้นัก

      “อ๊ายย เธอ พี่ทงเฮเขาขอคุณเจสสิก้าเป็นแฟนล่ะ” ฉันมองไปทางที่คนเหล่านั้นพูดทันที ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มที่ฉันเห็นตอนเย็นที่ยืนอยู่กับเธอ บัดนี้เค้านั่งลงคุกเข่ากับพื้น มอบช่อกุหลาบช่อโตให้เธอ ราวกับเจ้าชายที่ขอเจ้าหญิงแต่งงานก็ไม่ปาน

      “เขาเหมาะสมกันมากๆเลยล่ะ” บรรดาแขกในงานยังคงพูดคุยกัน และรอคอยว่าเมื่อไรเธอจะตอบตกลงชายหนุ่มคนนั้นเสียที ฉันที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มมั่นใจแล้วล่ะ ว่าไม่ควรอยู่ที่นี่ ฉันทำได้แค่วางของขวัญไว้บนโต๊ะที่อยู่ข้างๆ และเดินออกมาจากงานเงียบๆ ความเย็นของอากาศยามค่ำคืนทำให้ฉันรู้สึกตัวบ้างแล้ว ว่าควรกลับมายังโลกใบเดิมเสียที โลกที่เจสสิก้าไม่รู้จักคนที่ชื่อคิมแทยอน

      “นี่ จะเดินอีกนานไหมเนี่ย?” ฉันหันหลังกลับไปดูก็พบเข้ากับเจสสิก้า นี่เธอเดินตามฉันมาตอนไหนทำไมถึงไม่รู้สึกเลยว่าเธอเดินตาม และในมือของเธอนั่นมันของขวัญของฉันนี่

      “เธอออกมาจากงานทำไม?”

      “แล้วเธอหนีออกมาทำไม แล้วทำไมไม่ให้ของขวัญฉันกับมือ?” น้ำเสียงเธอบ่งบอกให้ฉันรู้แน่นอนว่าเธอกำลังไม่สบอารมณ์กับการเดินหนีออกมาดื้อๆของฉัน ฉันยิ้มก่อนจะเดินไปเผชิญหน้ากับเธอ

      “ฉันแค่มีธุระน่ะ แล้วอีกอย่างเห็นเธอยุ่งๆอยู่กับแฟน ก็เลยไม่ได้บอกลา” ฉันสังเกตสีหน้าเธอตอนที่พูด เจสสิก้าทำหน้าบึ้งเหมือนไม่พอใจกับคำพูดของฉันเท่าไร

      “ฉันไม่ได้เป็นแฟนกับใครทั้งนั้น อย่ามาพูดมั่วๆนะ”

      “อ่าว ก็ฉันเห็น......”

      “ฉันไม่ได้ตกลงแล้วจะเป็นแฟนกับพี่เขาได้ยังไง เธอนี่มันบื้อจริงๆ” เธอกำลังว่าฉันแต่แปลกที่ฉันไม่รู้สึกว่าเธอกำลังว่าเลย ฉันกลับรู้สึกว่าเธอกำลังน้อยใจยังไงไม่รู้

      “ฉันขอโทษละกันนะที่ออกมาโดยไม่บอกก่อน ยังไงก็สุขสันต์วันเกิดนะเจสสิก้า”

      “แค่นี้คิดว่าฉันจะหายโกรธเหรอ?” ฉันมองหน้าเธอเพื่อหาคำตอบ ฉันต้องทำอะไรอีกล่ะเพื่อให้เธอหายโกรธ แต่แค่ฉันออกมาจากงานโดยไม่บอกก่อน ไม่เห็นเธอต้องโกรธกันขนาดนี้นี่

      “ฉันต้องทำยังไงล่ะ?”

      “มานี่” แล้วเธอก็เดินมาจับมือฉัน ก่อนจะฉุดให้ฉันเดินตามเธอไป เราเดินมายังม้านั่งข้างๆทาง ฉันตัวแข็งมือเย็นไปหมดแล้วตอนนี้ ไม่คิดว่าจะได้จับมือกับเธอ และก็อยู่ใกล้กันขนาดนี้

      “แกะของขวัญให้ฉันหน่อย ฉันขี้เกียจ” แล้วเธอก็ยื่นกล่องของขวัญที่ฉันเป็นคนซื้อให้กลับมาให้ฉันอีก แต่เพื่อเธอเจ้าหญิงของฉัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ฉันจึงบรรจงแกะห่อของขวัญออก เผยให้เห็นกล่องดนตรีเจ้าหญิงเล่นเปียโนและเจ้าชายเล่นกีต้าร์  เจสสิก้าที่เห็นก็ยิ้มเล็กๆ ก่อนจะหยิบกล่องดนตรีไปจากมือฉัน

      “ใครเป็นคนเลือก?”

      “ก็ต้องเลือกเองสิ แล้วเธอถามทำไม?”

      “เจ้าหญิงเล่นเปียโนนี่ ฉันเหรอ?” เจสสิก้าหันมาถามฉัน สายตาของเธอทำเอาใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ฉันยิ้มก่อนจะเอ่ยบอกเธอ

      “ใช่ เธอไง”

      “แล้วเจ้าชายล่ะ ใคร?”

      “เป็นใครก็ได้ที่เธอต้องการ ใครก็ได้ที่เหมาะสม คู่ควร และทำให้เธอมีความสุข” ฉันตอบออกไปจากส่วนลึกๆของหัวใจ แม้ฉันจะทำได้แค่มองเธอแต่ขอให้คนที่จะได้อยู่เคียงข้างเธอเป็นคนที่ดีที่รักเธอจริงๆด้วยเถอะ

      “แต่มันหายากจังเลยนะ เจ้าชายที่ดีกับฉัน แถมเล่นกีต้าร์เป็นเนี่ย” เธอพูดออกมาด้วยเสียงเหนื่อยๆ ในความคิดฉันมันน่ารักมากๆ

      “ฉันมั่นใจ ว่าเธอต้องเจอแน่นอน”

      “แล้วถ้าเจอแล้วล่ะ?” เธอบอกกับฉันก่อนจะหันมามองสบตาฉัน หัวใจพองโต มือและเท้าชาวูบจนไม่มีความรู้สึก สายตาของฉันไม่อาจละไปจากเธอได้ หมายความว่ายังไงที่เธอเจอแล้ว

      “เธอเจอแล้วเหรอ ใครล่ะ?”

      “ก็....เธอไง” ถ้าฉันไม่เข้าข้างตัวเองตอนนี้ดูเหมือนเจสสิก้าจะเขิน ไม่ต่างกันฉันก็เขินจนพูดไม่ออก ไม่คิดว่าคนที่ฉันเฝ้ามองทุกวัน จะคิดเหมือนกัน

      “เธอมั่นใจเหรอว่าเป็นฉัน?”

      “ก็ไม่รู้สิ แต่สำหรับฉัน เจ้าชายแทยอน ฉันก็แอบมองเขาเหมือนกัน”

      “เธอเนี่ยนะแอบมองฉัน” แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะมองฉันเหมือนกัน นี่มันความฝันจริงๆใช่ไหม เรื่องจริงหรือเปล่า?

      “อย่างน้อยฉันก็เนียนกว่าเธอเยอะละกัน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอมองฉันน่ะ”

      “ถ้าอย่างนั้น ต่อไปจะมองแบบเปิดเผยก็ไม่ว่าอะไรใช่ไหม” ฉันพูดพลางขยับเข้าใกล้เธอ เจสสิก้าไม่ได้หนีแต่อย่างใด แต่ดูเธอจะเขินหนักกว่าเดิม

      “อยากมองก็มองไปสิ ถ้าฉันจะว่าเธอฉันว่าไปนานแล้ว”

      “ถ้าอย่างนั้น เจ้าหญิงอย่างเธอ จะยอมเป็นแฟนกับเจ้าชายบ้านๆอย่างฉันไหม?” ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันกล้าที่จะขอเธอ เจสสิก้าดูอึ้งเล็กน้อย เธอมองสบตาฉัน แล้วพูดประโยคที่ฉันเองไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน

      “ฉันไม่เป็นแฟนเธอหรอก แต่ฉันจะเป็นเจ้าหญิงของเธอคนเดียว” เรายิ้มให้กัน ก่อนที่ฉันจะดึงเธอเข้ามาโอบกอด ถ้ายูริ ซันนี่และยุนอารู้ว่าฉันได้เป็นแฟนกับเจ้าหญิงจริงๆ พวกนั้นจะทำหน้ายังไงนะ?

      “ห้ามทำฉันเสียใจนะ และอีกอย่างถ้าเธอเป็นเจ้าชายของฉันแล้ว ห้ามเธอไปเป็นเจ้าชายให้ใครอีกเข้าใจไหม”

      “ฉันรับรอง ฉันจะเป็นเจ้าชายของเธอคนเดียว ตราบใดที่ยังมีเจ้าหญิงเจสสิก้า ไม่ว่าเจ้าชายแทยอน คิมแทยอน หรือแค่แทยอนคนธรรมดาๆ จะอยู่กับเธอตลอดไป” คำพูดของฉันอาจจะดูไม่มั่นคงในตอนนี้ แต่ฉันมั่นใจว่าทุกคำพูดที่ฉันพูดนั้น ฉันสามารถทำมันได้แน่นอน

      “สัญญาแล้วนะ”

      “อื้ม ฉันให้สัญญา” หน้าของเราอยู่ไม่ห่างกันมากนักในตอนนี้ ฉันค่อยๆประกบริมฝีปากของตัวเองไปยังตำแหน่งเดียวกันกับเธอ เพื่อเป็นการสัญญา ว่าฉันคนนี้ จะอยู่เคียงข้างเจ้าหญิงตลอดไป

      Special

      “นี่พวกเรานั่นใครเหรอที่เดินสะพายกระเป๋ากีต้าร์ผ่านกลุ่มเราไป?”

      “ฉันจะไปรู้ได้ไงเล่า เธอนี่ก็ถามแปลกๆ ฮ่าๆๆ” แล้วเจสสิก้าก็พูดคุยกับเพื่อนในหัวข้ออื่นต่อไป

      “เหรออออ แน่ใจเหรอว่าไม่รู้จริงๆยัยสิก้า”

      “อย่าเสียงดังสิ ถ้าแทยอนได้ยินนะ ฉันจะฆ่าเธอ” ชี้หน้าคาดโทษเพื่อนสาวก่อนจะหลบหน้าอายๆเมื่อเพื่อนในกลุ่มต่างจ้องมอง

      “อะไร? จะมองทำไมนักห๊ะ?”

      “ก็มองคนเล่นตัวน่ะสิ รู้ทั้งรู้ว่าแทยอนก็ชอบตัวเอง แต่ทำเป็นไม่สนใจ ถามจริงเธอจะได้ลงเอยกันไหมเนี่ย?”

      “ได้สิ ก็แทยอนเป็นเจ้าชายของฉันคนเดียวนี่” แล้วเจสสิก้าก็รีบเก็บกระเป๋าเข้าเรียนโดยไม่รอเพื่อนๆ ใครจะรู้ว่าถ้าเพื่อนในกลุ่มพูดถึงคิมแทยอน เจสสิก้าจะออกอาการเขินแต่เมื่อแทยอนเดินผ่านก็จะทำเป็นไม่สนใจซะงั้น ใครจะรู้ว่าเจ้าหญิงของเราก็แอบมองแทยอนเหมือนกัน เจ้าหญิงของเรารู้มาตั้งนานแล้วล่ะว่าบนโลกใบนี้ยังมีคนที่ชื่อคิมแทยอน และรู้มานานแล้วล่ะ ว่าคิมแทยอน คือเจ้าชายของตัวเอง

       

      สวัสดีรีดเดอร์ที่รัก ตอนนี้ไรเตอร์เอาTaengSic มาฝากๆๆ

      ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะครับ

      อ่านแล้วเม้นจะมีออกมาให้อ่านกันอีกเยอะๆ

      จริงๆไรเตอร์แอบจิ้นคู่นี้มานานแล้ว

      พอกระแสมิสโคเรียและพยอนแทมาแค่นั้นแหล่ะ

      มหกรรมจิ้นของไรเตอร์จึงคัมแบค

      คิคิ แล้วเจอกันเรื่องหน้าครับ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×